ผมหาอ่านเรื่องพวกนี้มานานพอสมควรแล้ว และก็ชอบเรื่องทำนองพี่น้องเอากันมากด้วย ก็เพราะผมเองก็มีพี่สาวกับเขาเหมือนกันนี่ครับ และทีสำคัญก็คือ ขาว สวยและก็หุ่นดีด้วย แต่คำว่าหุ่นดีนะ หมายถึงตอนนี้นะ เพราะตอนนั้นก็เรียกว่าพอมีมากกว่า นั่นก็หมายความว่า พี่สาวผมเป็นของผมแล้วนั่นเอง และนั่นก็เป็นครั้งแรกของผมด้วย แต่กับพี่สาวผม ผมไม่แน่ใจเพราะถามพี่สาวผม พี่สาวก็ตอบว่า เป็นครั้งแรก และทำท่าโกรธ ๆ ที่ผมถามอย่างนั้น สำหรับผมเองนั้น ผมยอมรับนะครับ ว่าแรก ๆ ผมเองก็ไม่ได้คิดทำอย่างนี้หรอกครับ ก็เอาแต่จีบเพื่อนผู้หญิงในห้องนั่นแหละ แต่ก็ไม่สำเร็จสักคน แต่สำหรับเพื่อนสนิทผม มันคือไอ้หนุ่ม ถึงมันจะหน้าตาสู้ผมไม่ได้ (จริง ๆนะครับ) แต่มันอาศัยคารมดี มีชัยไปกว่าครึ่ง จีบสาว ๆ และพาไปฟันมาหลายสิบคนแล้ว ก็มีเพื่อนในห้องเดียวกับผมนี่แหละ และก็พี่สาวเด็กเก่ามัน เพื่อนพี่สาวมัน และก็รวมถึงพี่สาวมันด้วย ทำให้ผมถึงกับอึ้ง เพราะคิดไม่ถึงว่ามันจะเก่งกาจขนาดนี้ ทุกครั้งที่มันพาสาวไปฟันมา มันมักเอารูปมาอวดผมเหมือนเยาะเย้ยที่ผมหน้าตาดีกว่ามันแต่หาสาวฟันอย่างมันไม่ได้สักที

แต่ตอนพี่สาวมันนะ ผมไม่เห็นหรือรู้มาก่อน แต่มีแฟนเก่าคนหนึ่งของมัน(คนล่าสุดของมันตอนนั้น) เอารูปพี่สาวมันมาถามผมว่ารู้จักผู้หญิงคนนี้หรือเปล่า จะไปตบมัน แฟนเก่ามันบอกว่า มีคนเห็นมันพาไปเที่ยวมา (มันไม่เคยพาสาวไปบ้านมันสักคน มันอาศัยพาไปเที่ยวและก็เสร็จมันทุกราย) สาวของมันทุกคนจึงไม่มีใครได้รู้จักพี่สาวมัน ส่วนพี่สาวมันก็เรียนอยู่โรงเรียนประจำหญิงล้วน นาน ๆ จะกลับบ้านสักที ผมเองรู้จักมันมาเกือบสี่ปี เจอหน้าพี่สาวมันไม่ถึงสิบครั้งเลย และที่ผมรู้ว่าเป็นพี่สาวมันก็เพราะ มันเรียกว่า แจ้ ตอนที่ผมไปบ้านมันและบังเอิญพี่สาวมันกลับมาบ้านพอดี

มาเรื่องผมต่อดีกว่า หลังจากที่ผมได้รู้เรื่องของไอ้หนุ่มและสาว ๆ มัน มันก็พยายามคุยข่มผม สุดท้ายผมเลยยอมรับว่ามันเก่ง และพยายามขอวิธีจากมัน มันก็บอกผมว่า พาสาวไปเที่ยวงัย แรก ๆ ผมก็คิดว่ามันคงพาสาวไปมอมเหล้ามา แต่ที่ไหนได้มันกลับไม่ใช่ มันพาสาวไปเที่ยว และที่ ๆ มันชอบพาไปซึ่งผมเองก็ยังงงว่าทำไมต้องเป็นที่นั่น มันก็ตอบผมว่า มีที่ให้เที่ยวเยอะ และที่สำคัญมันบอกผมว่า มึงไม่เคยได้ยินหรือว๊ะ ประโยคที่ว่า “ไปเสม็ด เสร็จทุกรายนะ” ผมอึ้งไปเลย มันจะจริงหรือ และมันพาสาวทุกคนไปเสม็ดทุกครั้งเลยหรือ ทำไมพัทยา บางแสน หัวหิน ชะอำนะ ไม่ใกล้กว่าหรือ สุดท้ายมันก็เฉลยให้ผมฟังอีกว่า นอกจากเรื่องที่เที่ยวแล้ว มันยังมีเรื่องบรรยากาศ ไม่ซ้ำกับที่สาวเคยไป และการเดินทาง กว่าจะไปถึงก็เหนื่อยแล้วเรียกว่า ไปถึงก็อยากนอนพักผ่อนก่อน และนั่นแหละที่มันอยากให้เป็น พอเสร็จแล้วค่อยพาเที่ยวเอาใจอีกที แต่ส่วนใหญ่แล้วมันก็เอาสาวที่มันพาไปจนไม่ได้ไปไหนเท่าไรหรอกครับ และนั่นก็รวมถึงพี่สาวแท้ ๆ มันด้วย

แรก ๆ ผมเองก็ไม่ค่อยเชื่อหรอกครับ แต่แล้วปิดเทอมเมื่อเกือบห้าปีที่แล้ว ตอนนั้นผมก็ 16 ส่วนพี่สาวผมเพิ่ง 18 ไม่กี่เดือนเอง พี่สาวผมก็มาถามผมว่า “ปิดเทอมเมื่อไหร่ ไปเที่ยวไหนหรือเปล่า ไปเที่ยวทะเลกันไหม จะไปฉลองจบกับเพื่อน ๆ” (ตอนนั้นพี่สาวผมกำลังจะจบม 6 นะครับ ส่วนเรื่องเอ็นท์นะ พี่สาวผมไม่คิดเอ็นท์หรอกครับ เพราะเลือกเอาไว้แล้ว นิเทศน์ มหาลัยเอกชนแห่งหนึ่ง) จริง ๆ แล้วพี่สาวผมไม่ค่อยอยากชวนผมไปหรอกครับแต่ติดที่ว่า กลัวแม่ผมไม่อนุญาต เพราะมีแต่สาว ๆ ไปกันห้าหกคน และมีแฟนของเพื่อนพี่สาวผมไปอีกสองสามคนเท่านั้น ตอนนั้นผมเองก็เช็ง ๆ และยิ่งพอได้ยินว่าเสม็ดด้วย ก็ยิ่งตื่นเต้นใหญ่เลย เลยรับปากไปทันทีเลย แล้ววันเดินทางก็มาถึง ตอนนั้นพี่สาวผมขอแม่ว่าจะไปเที่ยวกันหนึ่งอาทิตย์ พอไปถึงมันไม่ใช่อย่างที่พี่สาวผมบอกไว้นะสิครับ เพื่อนพี่สาวผมไปกัน 3 คน และที่สำคัญทุกคนพาแฟนมากันด้วย มีพี่สาวผมคนเดียวที่ไม่มีแฟนไป (ตอนนั้นพี่สาวผมยังไม่มีแฟน ไม่ใช่ไม่สวยนะ แต่ไม่อึ๋มมากกว่า และที่สำคัญก็คือ พ่อผมดุมากด้วย) ส่วนเพื่อนพี่สาวผมก็รู้ครับว่าผมเป็นใคร ยังแซวพี่สาวผมเลยว่า ไม่มีแฟนมาเลยต้องพาน้องชายมาแทน

ผมเลยกลายเป็นที่แซวกันอย่างสนุกสนานของเพื่อนพี่สาวผม ตกลงวันนั้นไปกันทั้งหมด 8 คน 4 คู่พอดี แรก ๆ พี่สาวคิดว่าจะมีจะมาประมาณ 11 – 12 คน เลยจองห้องพักไว้ 4ห้อง กะว่านอนห้องละประมาณ 3 คนจะได้ไม่แน่นมาก และก็มีบางคู่เลยจองห้องไว้ก่อนขอห่าง ๆ กันด้วย นั่นก็คือหมายความว่าแสดงว่าต้องมีอะไรกันแน่ ๆ สรุปก็เลยกลายเป็นว่ามีสองห้อง สองคู่ ผมพักอยู่กับพี่เจ แฟนพี่พิม พี่สาวผมจึงพักอยู่กับพี่พิม หลังจากเก็บข้าวของเสร็จแล้ว ก็มารวมตัวกันก่อนที่จะเดินทางไปตลาดหาซื้อของมาทำกินกันตอนเย็น จะมีก็แต่พี่วิวกับพี่อั๋น ที่ไม่ยอมไปบอกว่าเดินทางเหนื่อยขอพักก่อนแล้วเย็นจะรับหน้าที่ทำอาหารเอง แต่ทุกคนเข้าใจกันว่าทำไม ยังมีแซวกันเลย ตอนนั้นผมก็พอเข้าใจนะครับ หลังจากที่เดินทางไปตลาดกันมาเกือบสองชั่วโมง ทุกคนก็กลับมาถึงที่พัก พี่พิมกับพี่ยิ้ม เพื่อนพี่สาวผมอีกคนก็ชวนพี่สาวผมและพวกแฟน ๆ ไปแอบดูห้องพี่วิว แต่พี่สาวผมห้ามไม่ให้ผมไป อ้างว่าเดี๋ยวเสียเด็ก แต่พี่พิมกลับแซวว่า “แน่นอนสิวะ มันจะได้เด็กได้อย่างงัยวะ ไม่ใช่ผู้หญิงสักหน่อย” แล้วก็พากันเดินไป เหลือผมกับพี่สาวสองคนช่วยกันเก็บของสดและของแห้งที่ซื้อมา หายไปเลยครับ จากบ่ายสามจนเกือบสี่โมงเย็น ทั้งหมดก็ยังไม่กลับมาพี่สาวผมเลยชวนผมไปตามที่บ้านพักพี่วิว เงียบไม่มีใครสักคน ทั้งพี่วิว พี่พิม พี่ยิ้มและบรรดาแฟน ๆ พี่สาวเลยบ่นว่าเรื่องที่หายหัวกันไป

ก่อนที่จะเดินกลับไปที่ห้องพักตัวเอง ผมเลยเดินกลับบาง พอถึงห้องพัก ก็ดันเข้าห้องไม่ได้ กุญแจอยู่กับพี่เจสิครับ ก็เลยต้องนั่งเล่นหน้าห้องพัก สักพักผมก็ได้ยินเสียงเหมือนคนคุยกัน ฟังสักพักจึงรู้ว่ามันมาจากห้องพักผมนั่นเอง ผมเลยเอาหูแนบดู ชัดเลยครับ มันเป็นเสียงร้องครางและพูดอะไรสักอย่าง แต่ได้ยินไม่ถนัด แต่ก็รู้ได้ละครับว่ามันคืออะไร จึงอยากลองแอบดู พยายามมองหาช่องอยู่นานแต่ก็ไม่พบ จนสักพักทั้งพี่เจและพี่พิมก็เปิดประตูออกมา ทั้งคู่ตกใจทันที่ที่เห็นหน้าผม แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรนอกจากแก้เก้อถามผมว่า พีสาวผมให้มาตามหรือ ผมก็ตอบว่าเปล่า ไม่รู้จะไปไหนเลยคิดจะกลับมานั่งที่ห้อง พี่พิมเลยชวนผมกลับไปหาพี่สาวผม พอไปถึงทุกคนก็กลับมารวมตัวกันแล้ว พอเห็นหน้ากันก็แอบยิ้ม ๆ มีแต่หน้าพี่สาวผมเท่านั้นที่บึ้งหน่อย ก็เล่นหายกันไปหมดเลยนี่ แล้วเย็นนั้นมีการปิ้งย่างของทะเลกินกัน แต่ก็ไม่ดึกมากเพราะวันรุ่งขึ้นทุกคนต้องตื่นแต่เช้า เช้าวันรุ่งขึ้นทุกคนมารวมกันอีก แต่เช้านี้เป็นข้าวต้มกุ้งกับปลาหมึก พี่พิมเลยแซวพี่วิวว่า อะไรว๊ะ ข้าวต้มอีกแหละ เมื่อคืนไม่อิ่มหรือ แล้วก็หัวเราะ ผมฟังก็เข้าใจนะ แต่ก็ต้องแกล้งทำเป็นไม่เข้าใจ วันนั้นเราจองเรือพาเที่ยวตามเกาะ และก็กลับมาพักที่ห้องเป็นอย่างนี้สองวัน ทีนี้สิครับคืนวันที่สามนั่นเอง พี่เจก็ไม่อยู่ห้อง อยู่ ๆ พี่สาวผมก็เดินมาหาผมที่ห้องแล้วบอกผมว่าขอนอนด้วยคนนะ ผมก็งง ๆ แล้วก็เข้าใจเพราะพี่สาวผมบอกว่า พี่พิมขอยืมห้องหน่อยจะอยู่กับพี่เจสักคืน อีกสองวันก็จะกลับกันแล้ว พีสาวผมก็เลยยอม

ส่วนผมตอนนั้นสาบานได้ว่าไม่ได้คิดกับพีสาวผมอย่างนั้นจริง ๆ ตอนนั้นผมกะว่าจะให้พี่สาวผมนอนบนเตียง แล้วผมนอนข้างล่าง แต่เพราะเตียงที่นอนนั้นเป็นเตียงคู่ใหญ่พอสมควร มันก็เลยเหลือพื้นที่ใช้สอยอื่นน้อย เหลือเพียงพื้นที่กว้างประมาณ 70-80 เซ็นเท่านั้น ก็พื้นที่ถัดจากโต๊ะเครื่องแป้งนั่นแหละ พี่สาวผมก็เลยบอกให้ผมขึ้นมานอนข้างบนเตียงด้วยกัน แต่พี่สาวผมก็ให้รับปากว่า “นอนอย่างเดียวนะ อย่าทำอะไรแจ้นะ” มันจุดประกายความคิดขึ้นในหัวสมองผมเลย ความคิดเรื่องพี่สาวกับน้องชาย เหมือนอย่างที่ไอ้หนุ่มกับพี่สาวมัน แต่ตอนนั้นผมก็ยังไม่กล้า เลยรับปากพี่สาวผมไป

แล้วเหมือนฟ้าเป็นใจ อยู่ ๆ ก็มีฝนลงมา คงเป็นฝนหลงฤดูมั้ง แต่สำหรับผมมันเป็นฝนทำนองน้ำมันพรายมากกว่า (ดีด(ตก)ปุ๊บได้เอาปั๊บ) ผมกับพี่สาวเลยต้องรีบวิ่งออกมาเก็บผ้าที่ตากไว้ก่อนที่จะกลับเข้าไปอีกครั้ง ในสภาพเปียกปอนทั้งคู่ ผมนะไม่เท่าไรมีเสื้อเปลี่ยนแต่พี่สาวผมสิ จะเอาที่ไหนมาเปลี่ยน เลยถามพี่สาวผมไปว่า “เอาเสื้ออั้วไปเปลี่ยนก่อนไหม” พี่สาวผมไม่ตอบผมเลยหยิบเอาเสื้อยืดตัวกับกางเกงบอลยื่นให้พี่สาว แต่ไม่ได้พูดอะไร พี่สาวผมก็เลยรับไปเปลี่ยนสักพักพี่สาวผมก็ออกมา หลวมโคกเลยครับ ก็ผมนะสูงกว่าพี่สาวผมต้อง 5 เซ็น เสื้อผมที่พี่สาวใส่ก็เลยดูหลวมและยาวเกือบคลุมกางเกงบอลผมเลย แล้วผมก็ถามพี่สาวผมว่า “แจ้พร่งนี้ไปไหนนะ” พี่สาวผมก็ตอบว่า “ก็พิพิธภัณฑ์แถวนี้แหละและตั้งใจไว้ว่าตอนเย็นอาจจะเดินซื้อของฝากป๋าม้าด้วย” เพราะอีกวันเราก็จะกลับกันแล้วย แล้วพี่สาวผมก็บอกให้ผมนอน แต่ผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงได้ ผมก็ยังคงไม่หลับ เพราะมัวคิดแต่เรืองของไอ้หนุ่มกับพี่สาวมันที่พยายามเข้ามาในสมองผมในตอนนั้น พอผมหันไปทางพี่สาว พีสาวผมก็ยังไม่หลับเช่นกัน พี่สาวผมเห็นผมก็เลยถามผมว่า “ยังไม่หลับอีกหรือ” ผมก็ตอบไปว่า “อื้อ แล้วแจ้ละ” พี่สาวผมก็เลยตอบกลับมาด้วยเสียงสั่นนิด ๆ ว่า “ยัง” ผมยังคงมองหน้าพี่สาวผม พี่สาวผมก็มองหน้าผมกลับ แต่แล้วอยู่ ๆ สติผมก็ขาดไป ผมยื่นมือไปจับมือพี่สาว พี่สาวผมรีบดึงมือกลับ แต่ผมก็ยังคงไม่ยอมหยุด แล้วผมก็เงยหน้ายกตัวขึ้นแล้วผมก็พูดว่า “แจ้อั้วขอโทษนะ อั้วขอนะ” แล้วผมก็จู่โจมพุ่งตัวกดทับพี่สาวทันที พี่สาวผมก็ตกใจและพยายามต่อสู้ขัดขืน แต่แล้วก็สู้ผมไม่ได้ ปากผมเข้าไปประกบกับปากพี่สาว ส่วนมือก็ล้วงเข้าไปในเสื้อยืดตัวที่ผมให้พี่สาวผมใส่ เต็ม ๆ เลยครับ ไม่มียกทรงก็พี่สาวผมนะถอดออกมันเปียกหมดแล้วนี่ ส่วนอีกมืออีกข้างก็ล้วงเข้าไปกางเกงบอล จะ ๆ เหมือนกันไม่มีอะไรปิดกั้นเต็ม ๆ มือเลยครับ พี่สาวผมตกใจแต่ก็พยายามปัดป้อง ตะโกนแต่ข้างนอกฝนก็ตกหนัก%E